ต้องบอกเลยว่ากลุ่ม อี เบลเยียม ถือเป็นเต็งหามที่จะได้เข้ารอบน็อกเอาต์ในตำแหน่งจ่าฝูง เพราะเพื่อนร่วมกลุ่มอย่าง สโลวาเกีย, โรมาเนีย และ ยูเครน ถือว่าเป็นรอง “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” หลายขุม ดังนั้นการแย่งโควตาอันดับ 2 ของกลุ่มนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะทั้งสามประเทศมีศักยภาพสูสีกัน และรายละเอียดเพียงเล็กๆ น้อยๆ ในการเล่นอาจจะทำให้เกิดความแตกต่าง รวมทั้งส่งผลต่อการเข้ารอบด้วย
เบลเยียม
ทัพ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” ทำผลงานได้น่าผิดหวังมากๆสำหรับ 2 ทัวร์นาเมนต์ระดับเมอร์ โดยพวกเขาตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึกยูโร 2020 และร่วงรอบแบ่งกลุ่ม เกมเวิลด์ คัพ 2022 ดังนั้นศึกยูโรครั้งนี้ เบลเยียม ต้องการเรียกศรัทธาคืนกลับมาให้ได้
เบลเยียม มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลังจบศึกฟุตบอลโลกที่ดินแดนตะวันออกกลาง โดยแต่งตั้ง โดเมนิโก้ เตเดสโก้ เข้ามากุมบังเหียนแทน โรเบร์โต้ มาร์ตีเนซ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่ผ่านมา พร้อมกับเป้าหมายในการนำทีมผ่านรอบคัดเลือกไปลุยดินแดนไส้กรอกให้ได้
เตเดสโก้ สามารถดึงศักยภาพของนักเตะเบลเยียมออกมาได้อย่างสุดยอดเมื่อพวกเขาไม่แพ้ใครเลยในรอบคัดเลือก และได้โควตาไปเล่นศึกยูโร 2024 แบบอัตโนมัติ พร้อมกับสถิติการยิงประตู 22 ลูก และเสียแค่ 4 ลูกเท่านั้น นั่นแสดงให้เห็นว่า กุนซือชาวอิตาเลียน สามารถสร้างสมดุลในเกมรับและเกมรุกให้กับทีมได้อย่างลงตัว
จะว่าไปแล้ว เบลเยียม เป็นทีมที่อาภัพเรื่องความสำเร็จระดับชาติ เพราะพวกเขามีขุมกำลังชั้นยอดมากมาย แต่ไปไม่ถึงดวงดาว โดยใกล้เคียงสุดก็คือได้อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 และรองแชมป์ ยูโร 1980 ดังนั้นในปีนี้พวกเขาหมายมั่นปั้นมือที่จะนำเกียรติยศระดับชาติมาประดับบารมีให้ได้
สตาร์ประจำทีม – เควิน เดอ บรอยน์
ถ้าจะมองหาเพลย์เมกเกอร์ที่ครบเครื่องทั้งเรื่องวิสัยทัศน์ในการเล่น, การผ่านบอลแม่นยำ และยิงประตูเฉียบคม ในยุคนี้คงหนีไม่พ้น เควิน เดอ บรอยน์ โดยเขาสร้างสรรค์ผลงานดีมีคุณภาพในการเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับฤดูกาลล่าสุด เดอ บรอยน์ โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานในช่วงต้นซีซั่น แต่หลังจากที่ฟิตสมบูรณ์เจ้าตัวก็กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทันที และสามารถทำแอสซิสต์สูงสุดเป็นอันดับ 2 ในลีก
จอมทัพวัย 32 ปี ทำประตูให้กับบ้านเกิดไปแล้ว 27 ลูกจากการลงสนาม 101 เกม และทำให้เขาติดอันดับ 6 ทำเนียบดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของเบลเยียม จุดเด่นของ เดอ บรอยน์ ซึ่งผ่านการเล่นในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ 5 ครั้งแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ ก็คือจินตนาการในการเล่น และนี่คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้ เบลเยียม คว้าชัยชนะ
โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ – 80 เปอร์เซนต์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติเบลเยียม
วันจันทร์ที่ 17 มิ.ย. พบ สโลวาเกีย เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันเสาร์ที่ 22 มิ.ย. พบ โรมาเนีย เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันพุธที่ 26 มิ.ย. พบ ยูเครน เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
++++++++++++++++++++
สโลวาเกีย
ชื่อชั้นของ สโลวาเกีย อาจจะไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ขุมกำลังของพวกเขาถือว่าใช้ได้ โดยผลงานในรอบคัดเลือกสามารถต่อกรกับ โปรตุเกส ได้สูสีแม้จะแพ้ทั้งนัดเหย้า-เยือน แต่ก็สู้กับทัพ “ฝอยทอง” ได้สนุกเร้าใจ
พวกเขาคว้าอันดับ 2 พร้อมโควตาไปเล่นในรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ ซึ่งนี่จะเป็นการแก้มืออีกครั้งหลังจากที่ทีมเคยตกรอบแบ่งกลุ่มเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และแน่นอนว่าครั้งนี้คงมีการตั้งเป้าหมายให้ดีกว่าเดิม
ฟรานเชสโก้ คัลโซน่า นายใหญ่ชาวอิตาเลีย เข้ามากุมบังเหียนเมื่อเดือนสิงหาคม 2022 และค่อยๆ ปลุกปั้น สโลวาเกีย ให้เป็นทีมที่แข็งแกร่ง โดยเน้นการเล่นแบนเหนียวแน่น และเน้นการสวนกลับที่เฉียบคม
สตาร์ประจำทีม – มิลาน สคริเนียร์
สำหรับ มิลาน สคริเนียร์ เป็นเซนเตอร์แบ็กที่เสียบสกัดแม่นยำ และมีความเป็นผู้นำสูง โดยเขาสวมปลอกแขนกัปตันทีมแทน มาเร็ค ฮัมซิค ที่เลิกเล่นให้ทีมชาติเมื่อปี 2022 แม้นักเตะจะพลาดลงสนาม 3 เดือนแรกจากอาการบาดเจ็บที่ข้อแท้ในปีนี้ แต่สามารถกลับมาช่วย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เมื่อเดือนเมษายน ซึ่งผลงานก็ยอดเยี่ยมเหมือนเดิม
แน่นอนว่า ปราการหลัง วัย 29 ปี เป็นผู้เล่นคีย์แมน ที่ คัลโซน่า ขาดไม่ได้ โดยประสบการณ์จากการค้าแข้งให้กับทีมชั้นนำอย่าง “เปแอสเช”, อินเตอร์ มิลาน และ ซามพ์โดเรีย เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับทีมชาติอย่างมาก
สคริเนียร์ มีความโดดเด่นในเรื่องการเสียบสกัดที่แม่นยำ, แข็งแกร่ง และมักจะขึ้นไปช่วยกดดันคู่แข่งเมื่อได้ลูกตั้งเตะ แม้การทำประตูในนามทีมชาติอาจไม่ค่อยเยอะแต่สามารถการันตีเรื่องเกมรับที่เหนียวแน่นได้เลย
โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ – 50 เปอร์เซนต์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติสโลวาเกีย
วันจันทร์ที่ 17 มิ.ย. เบลเยียม เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. พบ ยูเครน เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันพุธที่ 26 มิ.ย. พบ โรมาเนีย เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
+++++++++++++++++++++
โรมาเนีย
หลังห่างหายจากทัวร์นาเมนต์ยูโรไปนานถึง 8 ปีในที่สุด โรมาเนีย ก็หวนกลับมาโชว์เพลงแข้งอีกครั้ง และพวกเขาถือเป็นทีมม้ามืดที่อาจสร้างเซอร์ไพรส์ก็ได้ หลังผลงานในรอบคัดเลือกไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
เอ็ดวาร์ด ยอร์ดาเนสคู เข้ามารับงานคุม โรมาเนีย ในเดือนมกราคม 2022 และนำทัพ “ผีดิบ” โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งไม่แพ้ทีมใดเลยในรอบคัดเลือกพร้อมคว้าตั๋วไปเล่นรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ
การหวนกลับมาตะลุยศึกยูโรในครั้งนี้ ยอร์ดาเนสคู มีเป้าหมายก็คือการสร้างทีมรุ่นใหม่ที่เต็มไปด้วยแนวทางการเล่นที่น่าตื่นเต้น และทำให้โลกได้เห็นว่า โรมาเนีย จะกลับมาผงาดในวงการลูกหนังอีกครั้ง
สตาร์ประจำทีม – ราดู ดรากูซิน
ราดู ดรากูซิน เปรียบเสมือแสงสว่างนำทางของวงการฟุตบอลโรมาเนีย โดยเขาย้ายไปเล่นให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ช่วงเดือนมกราคมปีนี้ และผลงานในเกมรับถือว่าโดดเด่นแม้ว่าจะเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งของประเทศก็ตาม สำหรับแข้งวัย 22 ปี เป็นหนึ่งในผู้เล่นความหวังใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักทัพ “ผีดิบ” ในอนาคต และคาดว่าในศึกยูโร 2024 เขามีโอกาสที่จะเป็นดาวจรัสแสงด้วย
โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ – 40 เปอร์เซนต์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติโรมาเนีย
วันจันทร์ที่ 17 มิ.ย. พบ ยูเครน เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันเสาร์ที่ 22 มิ.ย. พบ เบลเยียม เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันพุธที่ 26 มิ.ย. พบ สโลวาเกีย เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
++++++++++++++++++++
ยูเครน
ยูเครน ต้องเหนื่อยแทบรากเลือดในรอบคัดเลือกเมื่อพวกเขาทำได้เพียงแค่อันดับ 3 โดยมีคะแนนเท่ากับ อิตาลี แต่เป็นรองเฮดทูเฮดทำให้พวกเขาต้องไปลุ้นเข้ารอบสุดท้ายด้วยการเล่นเพลย์ออฟ และก็ทำสำเร็จด้วยการเอาชนะ ไอซ์แลนด์ ได้
ทีมของกุนซือเซอร์เก เรบรอฟ อยู่ในกลุ่มที่โหดมากในรอบคัดเลือกที่มีทั้ง อังกฤษ และ อิตาลี แต่เขาสามารถทำให้ทีมต่อกรกับทั้งสองชาติได้อย่างสนุก ซึ่งสิ่งนี้เป็นเครื่องการันตีว่า ยูเครน ไม่ใช่ทีมไม้ประดับที่ใครจะมาเด็ดดอมดมเล่นๆ ได้ง่ายๆ
อย่าลืมว่าเมื่อ 4 ปีก่อน พวกเขาเคยสร้างเซอร์ไพรส์มาแล้วจากการทะลุเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ และด้วยขุมกำลังชั้นยอดผสมผสานกับประสบการณ์ของ เรบรอฟ งานนี้ ยูเครน อาจทำผลงานได้เหมือนกับ ยูโร 2020 ก็ได้
สตาร์ประจำทีม – มิไคโล มูดริค
ขุมกำลังหลายคนของ ยูเครนชุดนี้มีหลายที่เล่นใน อังกฤษ, อิตาลี และ สเปน อย่างเช่น โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ (อาร์เซน่อล) หรือ อันเดร ลูนิน (เรอัล มาดริด) แต่คนที่ได้รับการจับตามองเป็นพิเศษก็คือ มิโคไล มูดริค ปีกจอมพลิ้วสังกัดเชลซี
มูดริค ย้ายมาเล่นในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ช่วงเดือนมกราคม 2023 แต่ผลงานยังไม่ค่อยดีนัก นั่นอาจเป็นเพราะนักเตะยังปรับตัวกับลีกสูงสุดเมืองผู้ดีไม่ได้ แต่สำหรับซีซั่นนี้นักเตะพัฒนาฟอร์มการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และมีโอกาสได้ลงสนามมากขึ้น
จุดเด่นที่เห็นได้อย่างชัดเจนของ ดาวเตะวัย 23 ปีก็คือความรวดเร็ว และการกระชากบอล แต่จุดที่ยังต้องปรับปรุงก็คือการจบสกอร์ที่บางครั้งยิงทิ้งยิงขว้างเยอะไปหน่อยตอนที่เล่นให้กับ “สิงห์บลูส์” ดังนั้นในศึกยูโรครั้งนี้ถ้าเขาสามารถพัฒนาเรื่องการจบสกอร์ จะทำให้ทีมมีแนวรุกที่อันตรายมากยิ่งขึ้น
โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ – 40 เปอร์เซนต์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติยูเครน
วันจันทร์ที่ 17 มิ.ย. พบ โรมาเนีย เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันศุกร์ที่ 21 มิ.ย. พบ สโลวาเกีย เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันพุธที่ 26 มิ.ย. พบ เบลเยียม เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)