อังกฤษ vs สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 (5-3) ผลบอลยูโร 2024 รอบ8 ทีมสุดท้าย การแข่งขันฟุตบอล ยูโร 2024 รอบ 8 ทีมประจำวันเสาร์ที่ 6 ก.ค. 67 ที่สนามแมร์คูร์ สปีล อารีนา เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทษเยอรมนี เป็นการพบกันระหว่าง ทีมชาติอังกฤษ พบ สวิตเซอร์แลนด์ สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ดวลชนะจุดโทษชนะ สวิต
เซอร์แลนด์ 5-3 หลังเสมอในเวลา 90 และต่อเวลาพิเศษ 120 นาที เสมอกัน 1:1 ดูบอลเว็บยูฟ่า ดูบอลเว็บพนัน
อังกฤษ vs สวิตเซอร์แลนด์ 1-1 (5-3) ผลบอลยูโร 2024 รอบ8 ทีมสุดท้าย
อังกฤษ ชนะดวลจุดโทษ สวิตเซอร์แลนด์ ทะลุรอบรอง อังกฤษ ชนะดวลจุดโทษ เหนือ สวิตเซอร์แลนด์ ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ศึกฟุตบอลยูโร 2024
แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซืออังกฤษ ลงคุมทีมเป็นนัดที่ 100 โดยมีการปรับจุดเดียวจากรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่แซงชนะ สโลวาเกีย 2-1 ช่วงต่อเวลาพิเศษ โดย เอซรี คอนซ่า ลงมายืนในแผงหลังแทน มาร์ค เกฮี ที่ติดแบน นอกจากนี้ยังมีการปรับเล่นหลัง 3 โดยมี แฮร์รี่ เคน กัปตันทีมยืนค้ำเช่นเดิม
มูรัต ยาคิน เทรนเนอร์สวิตเซอร์แลนด์ ที่เกมส่งอิตาลี ตกรอบด้วยการชนะ 2-0 เกมนี้แม้ได้ ซิลวาน วิดเมอร์ กองกลางตัวริมเส้นกลับมาจากโทษแบนก็ตาม แต่ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากเกมชนะแชมป์เก่า ด้าน กรานิต ชาก้า แม้จะเจ็บติดมาจากเกมนั้นแต่ฟิตทัน
เกมช่วง 15 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีมยังตั้งเกมเปิดบอลแลกกันอย่างสนุกสูสี แต่จังหวะสุดท้ายแผงเกมรับของทั้งสองฝั่งยังเล่นได้อย่างมีวินัยและไม่เพลี้ยงพล้ำ
ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกม อังกฤษ เปอร์เซ็นต์ครองบอลเริ่มมากกว่า และมีจังหวะลุ้นเข้าทำ แต่ สวิตเซอร์แลนด์ ก็ยังป้องกันได้ดีพร้อมรอหาช่องทางสวนกลับ
นาทีสุดท้ายครึ่งแรก อังกฤษ น่าจะได้ประตูขึ้นนำเป็นจังหวะที่ บูคาโย่ ซาก้า เปิดจากสุดเส้นให้ ค็อบบี้ เมนู ที่วิ่งเข้ามากะยิงใส่จ่อๆ แต่ กรานิต ชาก้า ยังบ ล็อคไว้ได้ เสียเตะมุมเท่านั้น จบ 45 นาทีแรก เกมยังเสมอ 0-0
กลับมาครึ่งหลังทั้งคู่ยังคงเล่นกันอย่างรัดกุมเหมือนในครึ่งแรก นาที 57 บรีล เอ็มโบโล่ เกือบได้โหม่งจ่อๆ แต่ เอซรี คอนซ่า ที่ตามประกบอยู่ช่วยโหม่งคืนให้ จอร์แดน พิคฟอร์ด ได้
เกมผ่าน 70 นาที ทั้งสองทีมยังคงอึดอัด เมื่อยังไม่มีฝ่ายใดหาประตูเพื่อหาความได้เปรียบได้ โดยอังกฤษ ก็ยังไม่สามารถยิงเข้ากรอบได้เลย
นาทีที่ 75 กลายเป็นสวิตเซอร์แลนด์ ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดาน เอ็นดอย เปิดบอลมาจากทางขวาบอลแฉลบ จอห์น สโตนส์ มาถึง บรีล เอ็มโบโล่ ยิงแบบบสุดเหยียดที่เสาสองเข้าไป
นาทีที่ 78 อังกฤษ เปลี่ยนทีเดียว 3 คน โดย ลุค ชอว์ ที่หายเจ็บ โคล พาลเมอร์ และ เอเบเรชี่ เอเซ่ ลงไปแก้เกม โดยถอด คีแรน ทริปเปียร์, เอซรี คอนซ่า และ ค็อบบี้ เมนู ออก
นาที่ 80 อังกฤษ กลับมาสู่เกมตีเสมอ 1-1 จาก บูคาโย่ ซาก้า ที่ลากตัดจากขวาเข้ามายิงด้วยซ้าย บอลเช็ดเสาเข้าไป ลูกนี้ถือเป็นการยิงตรงกรอบของ “สิงโตคำราม” ด้วยเช่นกัน
หลังจากได้ประตูกลับสู่เกม อังกฤษ พยายามเร่งเกมเพื่อหวังทำประตูเพลิกกลับมาชนะ แต่ทำไม่สำเร็จ จบเกมเสมอ 1-1 ทำให้ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาทีเพื่อหาผู้ชนะ
นาทีที่ 95 เดแคลน ไรซ์ ลองยิงสวนด้วยขวาจากระยะเกือบ 30 หลา บอลพุ่งเล่นเอา ยาน ซอมเมอร์ ต้องปัดทิ้ง สวิตเซอร์แลนด์ เสียแค่เตะมุม
นาทีที่ 102 จู๊ด เบลลิงแฮม ลองยิงจังหวะสองด้วยซ้ายแต่บอลไปแฉลบผู้เล่นสวิตเซอร์แลนด์ ทำให้น้ำหนักเบา ยาน ซอมเมอร์ รับกินสบาย จบช่วงต่อเวลาพิเศษ ครึ่งแรก ยังเสมอ 1-1
นาทีที่ 117 เซอร์ดาน ชากิรี่ ตัวสำรองลงมาเปิดเตะมุมลักไก่ยิงบอลชนสามเหลี่ยม เกือบเป็นประตูขึ้นนำให้สวิตเซอร์แลนด์ อีกครั้ง
นาทีที่ 119 เซอร์ดาน ชากิรี่ ไหลใหั เซกี อัมดูนี่ ตัวสำรองอีกคนที่มายิงด้วยซ้าย แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยังทุบออกมาได้ ก่อนจะจบ 120 นาที ยังเสมอ 1-1 ต้องดวลจุดโทษหาผู้ชนะ ผลปรากฏว่า อังกฤษ ชนะดวลจุดโทษไป 5-3 โดยฝั่งสวิตเซอร์แลนด์ เป็น มานูเอล อคานจี ที่ยิงไม่เข้า
โดยในรอบรองชนะเลิศ ที่จะแข่งในวันที่ 10 ก.ค. จะไปรอพบผู้ชนะ ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ หรือ ตุรกี ทายผลฟรี
ผู้เล่น 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
อังกฤษ (3-4-2-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, เอซรี คอนซ่า – บูคาโย่ ซาก้า, เดแคลน ไรซ์, ค็อบบี้ เมนู, คีแรน ทริปเปียร์ – จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น – แฮร์รี่ เคน
สวิตเซอร์แลนด์ (3-4-3) : ยาน ซอมเมอร์ – ฟาเบียน แชร์, มานูเอล อคานจี, ริคาร์โด้ โรดริเกซ – ฟาเบียน รีเดอร์, เรโม่ ฟรอยเลอร์, กรานิต ชาก้า, มิเชล เอบิเชอร์, รูเบน วาร์กาส, บรีล เอ็มโบโล่, ดาน เอ็นดอย