เนเธอร์แลนด์ vs ออสเตรีย 2-3 ผลบอลยูโร 2024 กลุ่ม D

โรนัลด์ คูมัน ที่พาเนเธอร์แลนด์ เข้ารอบไปแล้ว หลังนัดล่าสุดแบ่งแต้ม ฝรั่งเศส 0-0 โดยมีการปรับทีม 3 ตำแหน่ง ลุตชาเรล  เกียร์ทรายด้า, โจอี้ เฟียร์มัน และดอนเยล มาเล่น ได้สตาร์ตแทน เจเรมี่ ฟริมปง, เดนเซล ดัมฟรายส์ และ ซาฟี ซิมอนส์

ทางด้าน ออสเตรีย ราล์ฟ รังนิค พา ออสเตรีย ชนะ โปแลนด์ 3-1 ในเกมล่าสุด มีการปรับ 4 จุด แม็กซิมิเลียน โวเบอร์, อเล็กซานเดอร์ พราสส์, โรมาโน่ ชมิด และ แพทริค วิมเมอร์ ได้สตาร์ต แทนที่ คอนราด ไลเมอร์, คริสตอฟ เบาม์การ์ตเนอร์, ฟิลิปป์ เอ็มเวเน่ และ เกอร์โนต์ ทราวน์เนอร์

เริ่มเกมมาออสเตรีย ลุยใส่ จนนาทีนาทีที่ 6 มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 เป็นจังหวะที่ อเล็กซานเดอร์ พราสส์ เติมขึ้นมาทางซ้าย ก่อนเปิดเข้ากลาง ดอนเยล มาเล่น ที่ลงมาช่วยเกมรับ และยืดขาสกัดพลาดเข้าประตูตัวเองไป

นาทีที่ 14 เนเธอร์แลนด์ มีลุ้นตีเสมอ โกดี้ คักโป  ไหลจากทางซ้ายเข้ากลางมาให้ ทียานี่ ไรน์เดอร์ส ได้แปแต่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 23 เนเธอร์แลนด์ เกือบได้ประตูตีเสมออีกครั้ง เมื่อ ดอนเยล มาเล่น หวังจะแก้ตัวจากจังหวะรับบอลแทงทะลุช่อง ทียานี่ ไรน์เดอร์ส แต่ยิงด้วยซ้ายหวังเสียบมุม แต่น้ำหนักไม่ได้หลุดเสาไปนิดเดียว

นาทีที่ 35 โรนัลด์ คูมัน แก้เกมด้วยการเปลี่ยนโควตาแรก ด้วยการถอด โจอี้ เฟียร์มัน ออก และส่ง ซาฟี ซิมอนส์ ลงไปแทนในแดนกลาง

นาทีที่ 38 มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ยิงไกลหวังเสียบเสาแรกแต่ บาร์ท แฟร์บรุคเค่น ยังเซฟไว้ได้ หลังจากนั้น มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช ได้ยิงจ่อๆ แต่ก็ยิงไม่เต็ม พลาดได้ประตูเพิ่มอย่างไม่น่าเชื่อ

นาทีที่ 41 เมมฟิส เดปาย ได้โหม่งบอลตกเกือบข้ามเส้นดีที่มีผู้เล่น ออสเตรีย สกัดเอาไว้ได้ แม้ประตูนี้จะเข้าไปแต่ ดอนเยล มาเล่น คนเปิดมาให้ถูกจับล้ำหน้า จบครึ่งแรก ออสเตรีย นำ 1-0

กลับมาครึ่งหลังนาทีที่ 47 เนเธอร์แลนด์  ตีเสมอ 1-1 ลูกนี้มาจากจังหวะสวนกลับ หลังออสเตรีย เสียบอลกลางทาง ซาฟี ซิมอนส์ พาบอลมาจากแดนตัวเอง ก่อนจ่ายให้ โกดี้ คักโป ล็อกแต่งเข้าขวา และปั่นเข้าเสาไกลไม่เหลือ

นาทีที่ 54  เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ได้โขกจากลูกเตะมุม แต่บอลไปโดน แม็กซิมิเลียน โวเบอร์ ข้ามคานออกไปชนิดที่เจ้าตัวเสียดาย

นาทีที่ 59 ออสเตรีย มานำอีกหน ฟลอเรียน กริลลิตช์ เปิดจากเกือบสุดเส้น มาให้ โรมาโน่ ชมิด  พุ่งโหม่งจ่อๆ เข้าไป สกอร์เปลี่ยนเป็น 2-1

เกมมาถึงนาที 75 นาที  เมมฟิส เดปาย พักบอลก่อนกระโดดยิงเข้าไป  ผู้ตัดสินเป่าจังหวะแรกว่าเดปาย แฮนด์บอล ก่อนที่จะไปเช็กจอ VAR และกลับคำตัดสินว่าไม่ได้แฮนด์บอล แต่อย่างใด เนเธอร์แลนด์ ตีเสมอ 2-2

นาทีที่ 80 คริสตอฟ เบาม์การ์ตเนอร์ ตัวสำรอง จ่ายให้ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ที่หลุดกัปดักล้ำหน้าก่อนมายิงทะแยงมุมเข้าไป ให้ ออสเตรีย นำ 3-2

นาทีที่ 83 คริสตอฟ เบาม์การ์ตเนอร์ ยิงยัดเสาแรกเข้าไปแต่ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกล้ำหน้า ออสเตรีย ยังไม่นได้ประตูที่ 4+63

นาทีที่ 86 เนเธอร์แลนด์ เกือบกลับมาสู่เกมอีกครั้ง เวาท์ เวกฮอร์ตส์ ตัวสำรอง ได้พุ่งโหม่ง บอลข้ามคานไปนิดเดียว

ช่วงทดเจ็บ 6 นาที แม้ เนเธอร์แลนด์ จะพยายามบุกแต่ก็ไม่สามารถทำประตูเพื่อแบ่งแต้มได้ จบเกม ออสเตรีย ชนะ 3-2 ทำให้มีเพิ่มเป็น 6 แต้มแซงขึ้นมาจบที่ 1 ของกลุ่มดี ด้าน ฝรั่งเศส ที่เสมอ โปแลนด์ 1-1 ทำให้จบอันดับ 2 มี 5 แต้ม ส่วน เนเธอร์แลนด์ มี 4 แต้มเท่าเดิมจบอันดับ 3 ของกลุ่ม โดย ออสเตรีย จะไปพบกับ ที่ 2 กลุ่ม เอฟ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย

ผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เนเธอร์แลนด์ (4-3-3) : บาร์ท แฟร์บรุคเค่น – ลุตชาเรล เกียร์ทรายด้า, สเตฟาน เดอ ฟราย, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, นาธาน อาเก้ – ทียานี่ ไรน์เดอร์ส, เยอร์ดี เชาเท่น, โจอี้ เฟียร์มัน  – ดอนเยล มาเล่น ,เมมฟิส เดปาย , โกดี้ คักโป
ออสเตรีย (4-2-3-1) : พาทริค เพนท์ซ – สเตฟาน พอช, แม็กซิมิเลียน โวเบอร์, ฟิลิปป์ ลีนฮาร์ท, อเล็กซานเดอร์ พราสส์ – นิโคลัส ไซวัลด์, ฟลอเรียน กริลลิตช์ – พาทริค วิมเมอร์, มาร์เซล ซาบิตเซอร์, โรมาโน่ ชมิด – มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช ทายผลฟรี