สเปน vs อังกฤษ 1-0 ผลบอลยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ไปอย่างสวยงาม

Spain-vs-England-1-0

สเปน vs อังกฤษ 1-0 ผลบอลยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูโร 2024 นัดชิงชนะเลิศ สเปน ชนะ อังกฤษ คว้าแชมป์ยูโร เป็นสมัยที่ 4 มากสุดในประวัติศาสตร์รายการนี้ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ ได้ ดานี่ การ์บาฆาล แบ็คขวา และโรบิน เลอ นอร์กม็องด์ ปราการหลังตัวกลาง กลับมาจากโทษแบน ทำให้ เฆซุส นาบาส และ นาโช่ เฟร์นันเดซ กลับไปนั่งสำรอง และเป็น 2 จุดที่มีการปรับนอกนั้นมีชุดเดิมจากเกมชนะ ฝรั่งเศส ในรอบตัดเชือก  ดูบอลเว็บยูฟ่า  ดูบอลเว็บพนัน

สเปน vs อังกฤษ 1-0 ผลบอลยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ

ผลบอลยูโร 2024 สเปน ชนะ อังกฤษ คว้าแชมป์สมัยที่ 4 แกเร็ธ เซาธ์เกต พาอังกฤษเข้าชิงศึกยูโร เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันหลังคราวก่อนพลาดแพ้ดวลจุดโทษ อิตาลี เกมนี้มีการปรับทีมเพียงจุดเดียวจากเกมชนะ เนเธอร์แลนด์ ในรอบรองฯ โดย

ลุค ชอว์ ได้สตาร์ตแทน คีแรน ทริปเปียร์ เกมช่วง 15 นาทีแรกเป็นทางด้าน สเปน ที่ครองบอลได้มากกว่า และมีโอกาสลุ้นจากเตะมุมถึง 2 ครั้ง จากจังหวะที่  จอห์น สโตนส์ เคลียร์ทิ้งออกหลัง

นาทีที่ 23 ฟิล โฟเด้น ไปเสียบอลลูกมาถึง ดานี่ โอลโม่ จ่ายต่อให้ ลามีน ยามาล ยิงไปแฉลบผู้เล่นอังกฤษ ได้เพียงเตะมุมเท่านั้น

นาทีที่ 25 แฮร์รี่ เคน มาโดนใบเหลืองใบแรกของเกมหลังไปทำฟาวล์ยกเท้าสูงใส่ อายเมอริก ลาปอร์ต

เกมผ่าน 40 นาที สเปน ที่เจาะเข้าทำซ้ายขวาจาก  ลามีน ยามาล กับ นิโก วิลเลี่ยมส์ แต่ยังเจาะแนวรับอังกฤษที่ทำได้ดีในจังหวะสุดท้าย

นาทีที่ 43 อัลบาโร่ โมราต้า ล็อกหนี  มาร์ค เกฮี ในเขตโทษได้แล้วแต่ยังดีที่  ไคล์ วอล์คเกอร์ มาช่วยซ้อนอังกฤษเสียเตะมุมเท่านั้น

นาทีสุดท้ายครึ่งแรก อังกฤษ มีลุ้นจากจังหวะที่ ดานี่ การ์บาฆาล มาเสียบอลให้ จู๊ด เบลลิงแฮม จ่ายให้ แฮร์รี่ เคน แต่ดีที่ โรดรี้ มาเร็วบล็อกเอาไว้ได้ หลังจากนั้น ฟิล โฟเด้น ได้ชาร์จจากลูกฟรีคิกที่เสาแรกแต่ อูไน ซิม่อน ปิดมุมรับไว้ได้  จบ 45

นาทีแรกยังเสมอ 0-0 กลับมาครึ่งหลังสเปน ชิงเปลี่ยนตัวก่อน มาร์ติน ซูบิเมนดี้ ถูกส่งลงไปแทน โรดรี้ ที่มีอาการบาดเจ็บ

นาทีที่ 47  ลามีน ยามาล ไหลไปให้ นิโก วิลเลี่ยมส์ ที่วิ่งมายิงแบบไร้ตัวประกบด้วยซ้ายเข้าไปให้ สเปน ขึ้นนำ 1-0  และเป็นประตูที่ 2 ของวิลเลี่ยมส์ ในทัวร์นาเมนต์นี้ นอกจากนี้ยังเป็นแอสซิสต์ที่ 4 ของ ลามีน ยามาล ในทัวร์นาเมนต์นี้

นาทีที่ 49 สเปน ยังไม่ได้ประตูเพิ่ม เป็นจังหวะที่ นิโก วิลเลี่ยมส์ มาจ่ายให้ ดานี่ โอลโม่ ยิงหักข้อด้วยซ้ายมากไปนิดบอลหลุดเสาสองออกไป

นาทีที่ 55 นิโก วิลเลี่ยมส์ ได้ลองกดด้วยขวาบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว ดาวเตะจากแอธ.บิลเบา ยังไม่สามารถทำประตูที่ 2 ให้ตัวเองและทีมได้

นาทีที่ 61 อังกฤษมีการปรับในเกมรุก แกเร็ธ เซาธ์เกต ส่ง โอลลี่ วัตกิ้นส์ ลงไปแทน แฮร์รี่ เคน ที่เกมนี้เล่นไม่ออก

นาทีที่ 64 จู๊ด เบลลิงแฮม พลิกดึงหนีผู้เล่นสเปน ได้สวยงามก่อนกดด้วยซ้าย บอลหลุดเสาไปนิดเดียวชนิดมีลุ้นเสมอ

นาทีที่ 66 จอร์แดน พิคฟอร์ด มาล้มตัวเซฟลูกยิงด้วยซ้ายของ ลามีน ยามาล เสียแค่เตะมุม อังกฤษ ยังไม่โดนประตูเพิ่ม

นาทีที่ 70 โคล พาลเมอร์ ถูกส่งไปเพิ่มมิติในเกมรุกให้อังกฤษ โดยเป็น ค็อบบี้ เมนู ที่ถูกออกมาพัก

นาทีที่ 73 บูคาโย่ ซาก้า จ่ายให้  จู๊ด เบลลิงแฮม แปะมาให้ โคล พาลเมอร์ แผงฤทธิ์ ยิงไกลนอกกรอบด้วยซ้ายตีเสมอให้อังกฤษ 1-1

นาทีที่ 82 สเปน น่าจะได้ประตูนำอีกครั้งแต่เจ้าหนู ลามีน ยามาล ได้ยิงจ่อๆ ด้วยซ้าย แต่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ยังเซฟเอาไว้ได้ จังหวะนี้เป็น ดานี่ โอลโม่ ที่ทำขึ้นมาสวย

นาทีที่ 86 มิเกล โอยาร์ซาบัล ตัวสำรองที่ลงมาแทน อัลบาโร่ โมราต้า มาชาร์จจ่อๆ ด้วยขวาจากจังหวะที่ มาร์ก กูกูเรย่า เปิดจากทางซ้ายมาเข้าไป สเปน นำ 2-1

นาทีที่ 90  อังกฤษ ไม่ได้ประตูตีเสมอ โดยจังหวะแรก อูไน ซิม่อน เซฟลูกยิงของ เดแคลน ไรซ์ เอาไว้ได้ จากนั้น ดานี่ โอลโม่ มาโหม่งสกัดบนเส้นจากลูกตามโขกจ่อๆของ มาร์ค เกฮี เอาไว้อีกรอบ

ช่วงทดเจ็บ 4 นาทีไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม สเปน ชนะ 2-1 คว้าแชมป์ยูโรเป็นสมัยที่ 4 ต่อจากปี 1964, 2008, 2012 ส่วน อังกฤษ ต้องรอแชมป์รายการนี้ต่อไป หลังเข้าชืงมา 2 สมัยติดต่อกัน

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม

สเปน (4-2-3-1) : อูไน ซิม่อน –  ดานี่ การ์บาฆาล, โรบิน เลอ นอร์กม็องด์, อายเมอริก ลาปอร์ต, มาร์ก กูกูเรย่า – โรดรี้, ฟาเบียน รุยซ์ – ลามีน ยามาล, ดานี่ โอลโม่, นิโก วิลเลี่ยมส์ – อัลบาโร่ โมราต้า

อังกฤษ (3-4-2-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, มาร์ค เกฮี – บูคาโย่ ซาก้า, เดแคลน ไรซ์, ค็อบบี้ เมนู, ลุค ชอว์ – จู๊ด เบลลิงแฮม, ฟิล โฟเด้น – แฮร์รี่ เคน ทายผลฟรี